คำถามนี้มีคำตอบ
คอลัมน์ เดินหน้าชน
โดย นฤตย์ เสกธีระ max@matichon.co.th
ยังคงเป็นเรื่องโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพเหมือนเดิมครับ
หลังจากที่คุณชัยทวี เสนะวงศ์ ผู้อ่านท่านหนึ่งได้ตั้งคำถามหลายอย่างเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว
วันนี้คุณสุภาพร ศรีเรืองสกุล อาจารย์โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งช่วยตอบคำถามให้
คำตอบนี้มีประโยชน์มากครับ จึงขออนุญาตลงจดหมายของคุณสุภาพร ดังนี้
เรียน คุณนฤตย์ เสกธีระ
ตาม ที่คุณและท่านผู้อ่านได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ โดยมีประเด็นต่างๆ ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันนั้น ดิฉันในฐานะผู้อ่านหนังสือพิมพ์มติชนและครูโรงเรียนเอกชน ขอนำเสนอข้อมูลซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อท่านดังนี้
1.โรงเรียนเอกชน ปัจจุบันแบ่งเป็นโรงเรียนที่ขอรับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัว ซึ่งช่วยให้ท่านผู้ปกครองไม่ต้องจ่ายเงินมากตามที่ควรต้องจ่าย เพราะส่วนหนึ่งของเงินรายได้มาจากการอุดหนุนของรัฐ โดยท่านผู้ปกครองจะทราบหรือไม่ทราบก็ตาม
ซึ่งก็คือโรงเรียนเอกชนส่วน ใหญ่ที่ตั้งอยู่ทุกจังหวัดในประเทศไทย รัฐจะควบคุมดูแลไม่ให้โรงเรียนคิดค่าใช้จ่ายทุกประเภทสูงเกินสมควร โดยมีระเบียบปฏิบัติและหลักเกณฑ์ต่างๆ ควบคุมดูแล
ส่วนโรงเรียนเอกชน อีกประเภทหนึ่ง เป็นโรงเรียนที่ไม่ประสงค์จะขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐ ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนยอดนิยม หรือพวกโรงเรียนสองภาษาและโรงเรียนนานาชาติ พวกนี้เพียงแต่แจ้ง สช.ว่าจะเก็บเงินเท่าไรก็พอ ไม่ต้องถูกกำหนดเพดานค่าธรรมเนียมการเรียน หรือเรียกว่าโรงเรียนที่มีค่าธรรมเนียมการเรียนลอยตัว
โรงเรียนประเภทนี้มีจำนวน 227 โรงเรียน
โรงเรียน ประเภทนี้จะไม่ได้รับเงินตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ เพราะเก็บค่าธรรมเนียมการเรียนสูงเกินกว่าที่รัฐกำหนดไว้
ส่วนประเด็นที่ว่าถือเป็นการรอนสิทธิของผู้ปกครองในฐานะประชาชนคนหนึ่งหรือไม่ ขอให้เปิดไว้รับความเห็นจากทุกท่านต่อไป
2. ประเด็นที่คุณชัยทวี เสนะวงศ์ แสดงความสงสัยว่า โรงเรียนเอกชนอาจจะสละสิทธิรับการอุดหนุนจากรัฐ เนื่องจากยังไม่เห็นดำเนินการอะไรนั้น
ขอเรียนให้ทราบว่าโดยหลักการโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนของ สพฐ.ต้องดำเนินการไปในแนวทางเดียวกัน
กล่าว คือ เงินช่วยเหลือ 4 ด้าน คือ 1.ชุดนักเรียน 2.อุปกรณ์การเรียน 3.หนังสือเรียน และ 4.กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนต้องดำเนินการตั้งกรรมการจากฝ่ายผู้ปกครอง จากฝ่ายครู จากผู้แทนในชุมชนและจากนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมขึ้นไป จัดประชุม ตกลงวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับเงินทั้ง 4 ประเภทเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวนักเรียนมากที่สุดและการดำเนินการนี้ต้อง โปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้
เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงแจ้งให้ผู้ปกครองทั้งโรงเรียนทราบ
ท่านผู้ใดจะตัดสินใจอย่างไร เป็นสิทธิส่วนตัวของท่าน โรงเรียนเอกชนทุกโรงไม่สามารถบังคับนักเรียนให้สละสิทธิได้
สิ่ง ที่เล่าให้ฟังนี้เป็นเรื่องการเตรียมการที่ทางฝ่ายโรงเรียนเอกชนได้ดำเนิน การอยู่แล้ว รอรายละเอียดในเรื่องแบบเอกสารจาก สช. ซึ่งทราบว่าจะมีการประชุมในวันที่ 12 มีนาคม 2552
ขอรับรองว่า โรงเรียนเอกชนทุกแห่งดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐอย่างแน่นอน ในส่วนเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวที่รัฐจะเพิ่มให้ โรงเรียนของเราก็ติดประกาศแล้วว่าจะรับมาให้ผู้ปกครองทุกท่าน
จดหมายของคุณสุภาพรทำให้เกิดความกระจ่างขึ้นมาก และเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ขอบคุณครับ
ที่มา - มติชนรายวัน หน้า 6 - วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11329
จำนวนอ่าน : 447