• ประวัติศาสตราจารย์ศิลป์� พีระศรี

    ��������ศาสตราจารย์ศิลป์�พีระศรี�เดิมชื่อ CORRADO�FEROCI�เกิดเมื่อวันที่�15 กันยายน พ.ศ.2435�ตำบลซานยิโอวานนี�เมืองฟลอเรนซ์� ประเทศอิตาลี�บิดาชื่อ� นายอาร์ทูโด มารดาชื่อ�นางซันตินา�มีอาชีพทำธุรกิจการค้า� ท่านได้สมรสกับนาง� FANNI� VIVIANI�มีบุตรด้วยกัน�2�คน�บุตรหญิงชื่ออิซาเบลลา ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจ� บุตรชายชื่อ� โรมาโน� เป็นสถาปนิก

    ��������ศาสตราจารย์ศิลป์�พีระศรี�เป็นชาวฟลอเรนซ์�เมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะ�เมื่อเยาว์วัยท่านชื่นชมผลงานศิลปกรรมของไมเคิล แองเจโล�ประติมากรเอกของโลกชาวฟลอเรนซ์�เมื่อโตขึ้นจึงได้เข้าศึกษาศิลปะที่ราชวิทยาลัยศิลปะแห่งนครฟลอเรนซ์�จบการศึกษาตั้งแต่อายุยังน้อยเพียง�23�ปีเท่านั้น�ได้รับประกาศนียบัตรช่างเขียนช่างปั้นและเข้าสอบชิงตำแหน่งศาสตราจารย์ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

    ��������ผลงานในวัยหนุ่มที่ได้รับยกย่องและมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะของศิลปิน� คือ� ได้รับรางวัลชนะการประกวดออกแบบอนุสาวรีย์หลายครั้ง

    ชีวิตในวัยหนุ่ม

    ��������ในวัยหนุ่มของศาสตราจารย์ศิลป์�พีระศรี เป็นวัยที่มีพลัง�ดังนั้นท่านจึงไม่พอใจในสภาพชีวิตที่เป็นอยู่ในสังคมที่เจริญแต่เพียงด้านวัตถุในประเทศอิตาลีสมัยนั้น�เมื่อท่านได้ทราบข่าวว่ารัฐบาลแห่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว�รัชกาลที่ 6 ต้องการช่างปั้นชาวอิตาเลี่ยน�เพื่อเข้ามารับราชการงานอนุสาวรีย์ในประเทศไทย�ท่านจึงยื่นความจำนงพร้อมผลงานเข้าแข่งขันกับศิลปินอีกจำนวนมาก�ในที่สุดรัฐบาลไทยได้เลือก�Prof. C. Feroci เข้ามารับราชการในประเทศไทย

    เริ่มแรกในเมืองไทย

    ��������ศาสตราจารย์ศิลป์�พีระศรี ได้ออกเดินทางโดยทางเรือจากประเทศอิตาลีถึงกรุงสยาม�ในราวต้นเดือนมกราคม�พ.ศ. 2466�อายุได้�31�ปี�เข้ารับราชการในตำแหน่งช่างปั้นของกรมศิลปากร�กระทรวงวัง�เมื่อวันที่�14�มกราคม�ปีเดียวกัน�โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ�เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์�ศิลปินเอกแห่งกรุงสยามเป็นองค์อุปถัมภ์

    ��������ในระยะแรกเป็นช่วงเวลาที่ท่านต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสังคมแวดล้อมและการเมือง�อีกทั้งยังต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับของผู้มีอำนาจในสมัยนั้น�ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างผลงาน�รัฐบาลไทยจึงได้ยอมรับท่านเรื่อยมา� เช่น� มอบหมายให้ปั้นพระบรมรูปรัชกาลที่�6�เท่าพระองค์จริง�ปัจจุบันประดิษฐานในปราสาทพระเทพบิดร� และปั้นพระรูปสมเด็จฯ� เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ฯลฯ

    งานอนุสาวรีย์ในเมืองไทย ��������ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี�ประสงค์ที่จะใช้บุคลากรที่เป็นคนไทยในการทำงานศิลปะ�เมื่อท่านได้มีโอกาสจัดสร้างอนุสาวรีย์�ท่านได้ฝึกฝนกุลบุตรกุลธิดาของไทยให้ได้ศึกษาเรียนรู้วิชาการปั้น�และการหล่อโลหะขนาดใหญ่ การจัดสร้างอนุสาวรีย์ในยุคสมัยของท่านดังกล่าว นับเป็นยุคแรกที่ได้มีการจัดสร้างอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญขึ้นในประเทศไทย

    ผลงานที่สำคัญซึ่งปรากฏเห็นในปัจจุบันมีดังนี้ ��������•�พระบรมราชานุสาวรีย์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีขนาด�3�เท่าคนจริง�ประดิษฐานที่เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก�ท่านเป็นช่างปั้น�และเดินทางไปควบคุมการหล่อที่ประเทศอิตาลี�สร้างเมื่อ พ.ศ. 2472

    ��������•�อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี�จังหวัดนครราชสีมา�สร้างเมื่อ พ.ศ. 2477

    ��������•�รูปปั้นหล่อประกอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ� สร้างเมื่อ พ.ศ. 2485

    ��������•�พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว�ที่สวนลุมพินี�สร้างเมื่อ พ.ศ. 2484

    ��������•�พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช�ที่วงเวียนใหญ่�สร้างเมื่อ�พ.ศ. 2493

    ��������•�พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช�จังหวัดสุพรรณบุรี�สร้างเมื่อ พ.ศ. 2497��

    ��������•�รูปปั้นประดับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย�ถนนราชดำเนิน

    ��������•�พระพุทธรูปพระประธานพุทธมณฑล�25�พุทธศตวรรษ�ที่จังหวัดนครปฐม�พ.ศ .2498�ฯลฯ

    ��������นอกจากนั้นยังมีโครงการที่ทำยังไม่แล้วเสร็จอีกคือ�พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน�� อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช� จังหวัดลพบุรี�เป็นต้น
    ด้วยเหตุที่ท่านได้ฝึกฝนเยาวชนไทยให้เข้าช่วยงานปั้นอนุสาวรีย์� จึงเป็นแรงบันดาลใจท่านจัดตั้งโรงเรียนของทางราชการขึ้นในปี พ.ศ. 2469�โดยสอนเฉพาะวิชาประติมากรรม�ต่อมาในปี พ.ศ. 2481�ทางกระทรวงธรรมการได้เห็นความสำคัญในสิ่งที่ท่านทำ�จึงได้จัดตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนศิลปากร� จัดทำหลักสูตรศิลปกรรมชั้นสูง� 4� ปี� ต่อมาโรงเรียนแห่งนี้ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร�ในปี� พ.ศ. 2486� ปัจจุบันมหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นสถาบันการศึกษาอุดมศึกษาสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย

    ผลงานด้านเอกสารทางวิชาการ
    ��������ศาสตราจารย์ศิลป์�พีระศรี�มีผลงานทางด้านเอกสารทางวิชาการ�ตำรา และบทความมากมาย�ซึ่งล้วนแต่ให้ความรู้ทางศิลปะ� พยายามชี้ให้เห็นคุณค่าของศิลปะ เช่น�ทฤษฎีของสี�ทฤษฎีแห่งองค์ประกอบศิลป์�คุณค่าของจิตรกรรมฝาผนัง�ศิลปะและราคะจริต อะไรคือศิลปะ�ภาพจิตรกรรมไทย�พรุ่งนี้ก็ช้าเสียแล้ว�ฯลฯ�ตลอดเวลาที่ศาสตราจารย์ศิลป์� พีระศรี�ได้เดินทางเข้ามารับราชการและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย�ท่านได้ทุ่มเทความรัก�ความรับผิดชอบให้แก่งานราชการอย่างมหาศาล แม้ว่าท่านอยู่ในฐานะของชาวต่างชาติก็ตาม�ต่อมาในปี�พ.ศ. 2485�ท่านได้โอนสัญชาติเป็นไทยและเปลี่ยนชื่อเป็นไทย�พ.ศ. 2502 สมรส กับ คุณมาลินี�เคนนี และใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยตลอดอายุของท่าน

    ��������ศาสตราจารย์ศิลป์�พีระศรี�ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจและโรคเนื้องอกในลำไส้ที่โรงพยาบาลศิริรราช�เมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม�พ.ศ. 2505�รวมอายุได้ 69 ปี�7�เดือน�29�วัน�ท่านได้อุทิศตนให้กับราชการไทยเป็นเวลาทั้งสิ้น�38� ปี�4�เดือน

    จำนวนอ่าน : 811