• สุภาษิตอิศรญาณ เป็นพระนิพนธ์ของหม่อมเจ้าอิศรญาณ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เขียนเป็นคำประพันธ์ประเภทเพลงยาว จึงได้ชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า เพลงยาวเจ้าอิศรญาณ
    ����������� เนื้อหาของสุภาษิต มีข้อความที่เป็นที่นิยมแพร่หลาย อยู่มากแห่งด้วยกัน และมีลักษณะของวิถีชีวิตไทย อยู่อย่างเต็มเปี่ยม จึงทันสมัยอยู่แม้ในยุคปัจจุบัน

    อิศรญาณชาญกลอนอักษรสาร
    เทศนาคำไทยให้เป็นทานโดยตำนานศุภอรรถสวัสดี
    สำหรับคนเจือจิตจริตเขลาด้วยมัวเมาโมห์มากในซากผี
    ต้องหาม้ามโนมัยใหญ่ยาวรีสำหรับขี่เป็นม้าอาชาไนย
    ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า
    น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย
    เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจรักกันไว้ดีกว่าชังระวังการ
    ผู้ใดดีดีต่ออย่าก่อกิจผู้ใดผิดผ่อนพักอย่าหักหาญ
    สิบดีก็ไม่ถึงกับกึ่งพาลเป็นชายชาญอย่าเพ่อคาดประมาทชาย
    รักสั้นนั้นอย่าให้รู้อยู่เพียงสั้น
    รักยาวนั้นอย่าให้เยิ่นเกินกฎหมาย
    มิใช่ตายแต่เขาเราก็ตายแหงนดูฟ้าอย่าให้อายแก่เทวดา
    อย่าดูถูกบุญกรรมว่าทำน้อย
    น้ำตาลย้อยมากเมื่อไรได้หนักหนา
    อย่านอนเปล่าเอากระจกยกออกมาส่องดูหน้าเสียทีหนึ่งแล้วจึงนอน
    เห็นตอหลักปักขวางหนทางอยู่
    พิเคราะห์ดูควรทึ้งแล้วจึงถอน
    เห็นเต็มตาแล้วอย่าอยากทำปากบอนตรองเสียก่อนจึงค่อยทำกรรมทั้งมวล
    ค่อยดำเนินตามไต่ผู้ไปหน้า
    ใจความว่าผู้มีคุณอย่าหุนหวน
    เอาหลังตากแดดเป็นนิจคิดคำนวณรู้ถี่ถ้วนจึงสบายเมื่อปลายมือ
    เพชรอย่างดีมีค่าราคายิ่ง
    ส่งให้ลิงจะรู้ค่าราคาหรือ
    ต่อผู้ดีมีปัญญาจึงหารือให้เขาลือเสียว่าชายนี้ขายเพชร
    ของสิ่งใดเจ้าว่างามต้องตามเจ้า
    ใครเลยเล่าจะไม่งามตามเสด็จ
    จำไว้ทุกสิ่งจริงหรือเท็จพริกไทยเม็ดนิดเดียวเคี้ยวยังร้อน
    เกิดเป็นคนเชิงดูให้รู้เท่า
    ใจของเราไม่สอนใจใครจะสอน
    อยากใช้เขาเราต้องก้มประนมกรใครเลยห่อนจะว่าตัวเป็นวัวมอ
    เป็นบ้าจี้นิยมชมว่าเอก
    คนโหยกเหยกรักษายากลำบากหนอ
    อันยศศักดิ์มิใช่เหล้าเมาแต่พอถ้าเขายอเหมือนอย่างเกาให้เราคัน
    บ้างโลดเล่นเต้นรำทำเป็นเจ้า
    เป็นไรเขาไม่จับผิดคิดดูขัน
    ผีมันหลอกช่างผีตามทีมันคนเหมือนกันหลอกกันเองกลัวเกรงนัก
    สูงอย่าให้สูงกว่าฐานนานไปล้ม
    จะเรียนคมเรียนเถิดอย่าเปิดฝัก
    คนสามขามีปัญญาหาไว้ทักที่ไหนหลักแหลมคำจงจำเอา
    เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด
    ไปพูดขัดเขาทำไมขัดใจเขา
    ใครทำตึงแล้วหย่อนผ่อนลงเอานักเลงเก่าเขาไม่หาญราญนักเลง
    เป็นผู้หญิงแม่ม่ายที่ไร้ผัว
    ชายมักยั่วทำเลียบเทียบข่มเหง
    ไฟไหม้ยังไม่เหมือนคนที่จนเองทำอวดเก่งกับขื่อคาว่ากระไร
    ����� อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลักไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว
    จงฟังหูไว้หูคอยดูไปเชื่อน้ำใจดีกว่าอย่าเชื่อยุ
    หญิงเรียกแม่ชายเรียกพ่อยอไว้ใช้
    มันชอบใจข้างปลอบไม่ชอบดุ
    ที่ห่างปิดที่ชิดไชให้ทะลุคนจักษุเหล่หลิ่วไพล่พลิ้วพลิก
    เอาปลาหมอเป็นครูดูปลาหมอ
    บนบกหนออุตส่าห์เสือกกระเดือกกระดิก
    เขาย่อมว่าฆ่าควายเสียดายพริกรักหยอกหยิกยั บทั้งตัวอย่ากลัวเล็บ
    มิใช่เนื้อเอาเป็นเนื้อก็เหลือปล้ำ
    แต่หนามตำเข้าสักนิดกรีดยังเจ็บ
    อันโลภลาภบาปหนาตัณหาเย็บเมียรู้เก็บผัวรู้ทำพาจำเริญ
    ถึงรู้จริงนิ่งไว้อย่าไขรู้
    เต็มที่ครู่เดียวเท่านั้นเขาสรรเสริญ
    ไม่ควรกล้ำเกินหน้าก็อย่าเกินอย่าเพลิดเพลินคนชังนักคนรักน้อย
    วาสนาไม่คู่เคียงเถียงเขายาก
    ถึงมีปากเสียเปล่าเหมือนเต่าหอย
    ผีเรือนตัวไม่ดีผีป่าพลอยพูดพล่อยพล่อยไม่ดีปากขี้ริ้ว
    แต่ไม้ไผ่อันหนึ่งตันอันหนึ่งแขวะ
    สีแหยะแหยะตอกตะบันเป็นควันฉิว
    ช้างถีบอย่าว่าเล่นกระเด็นปลิวแรงหรือหิวชั่งใจดูจะสู้ช้าง
    ล้องูเห่าเล่นก็ได้ใจกล้ากล้า
    แต่ว่าอย่ายักเยื้องเข้าเบื้องหาง
    ต้องว่องไวในทำนองคล่องท่าทางตบหัวผางเดียวม้วนจึงควรล้อ
    ถึงเพื่อนฝูงที่ชอบพอขอกันได้
    ถ้าแม้ให้เสียทุกคนกลัวคนขอ
    พ่อแม่เลี้ยงปิดปกเป็นกกกอจบแล้วหนอเหมือนเปรตเหตุด้วยจน
    ถึงบุญมีไม่ประกอบชอบไม่ได้
    ต้องอาศัยคิดดีจึงมีผล
    บุญหาไม่แล้วอย่าหลงทะนงตนปุถุชนรักกับชังไม่ยั่งยืน
    ฯลฯ
    อันคลื่นใหญ่ในมหาชลาสินธุ์เข้าฝั่งสิ้นสาดเข้าไปที่ในฝั่ง
    เสียงกลองดังฟังดูเพียงหูฟังปากคนดังอึงจริงยิ่งกว่ากลอง
    ถ้าทำดีก็จะดีเป็นศรีศักดิ์ถ้าทำชั่วชั่วจักตามสนอง
    ความชั่วเราลี้ลับอย่ากลับตรองนอนแล้วมองดูผิดในกิจการ
    ฯลฯ
    อันความเรื่องเดียวกันสำคัญกล่าวพูดไม่ดีแล้วก็เปล่าไม่แข็งเข้ม
    ข้าวต้มร้อนอย่ากระโจมค่อยโลมเล็มวิสัยเข็มเล่มน้อยร้อยช้าช้า
    ถึงโปร่งปรุในอุบายเป็นชายชาติแม้หลงมาตุคามขาดศาสนา
    อันความหลงแม้ไต่ปลงสังขาราแต่ทว่ารู้บ้างค่อยบางเบา
    อย่าโอกโขยกอยู่ในโลกสันนิวาสแต่นักปราชญ์ยังรู้พึ่งผู้เขลา
    เหมือนเรือช่วงพ่วงลำในสำเภาเรือใหญ่เข้าไม่ได้ใช้เรือเล็ก
    ฯลฯ
    หลงโลภลาภบาปก็รู้อยู่ว่าบาปกิเลสหยาบยังไม่สุขย่อมทุกขัง
    ตัณหาหากชักนำให้กำบังเอาธรรมตั้งข่มกดให้ปลดร้อน
    คนศรัทธาว่าง่ายสบายจิตไม่เบือนบิดเร่งทำตามคำสอน
    คนที่ไม่ศรัทธาอุราคลอนโง่แล้วงอนถึงไม่ฟังก็ยังดึง
    หาเงินติดไถ้ไว้อย่าให้ขาดตำลึงบาทหาไม่คล่องเพียงสองสลึง
    ชาติตะปูชาติแข็งต้องแทงตรึงชาติขี้ผึ้งชาติอ่อนร้อนละลาย
    ของสิ่งใดสงสัยให้พิสูจน์ไม่แกล้งพูดธาตุทั้งสี่ดีใจหาย
    ดูดินน้ำลมไฟให้แยบคายไล่ระบายเท็จก็แปรแท้ไม่จร
    ฯลฯ
    คุณกับโทษสองแบ่งแรงข้างไหนคุณถึงใหญ่ให้ผลคนไม่เห็น
    โทษสักเท่าหัวเหาเล็กเท่าเล็นให้ผลเห็นแผ่ซ่านทั่วบ้านเมือง
    น้ำใจเอยเห็นกรรมไม่ทำชั่วบวชตั้งตัวตั้งใจบวชได้เรื่อง
    บวชหลบราชการหนักบวชยักเยื้องบวชหาเฟื้องหาไพบวชไม่ตรง
    ฯลฯ
    สัตว์ผอมฤษีพีนี้สองสิ่งสามผู้หญิงรูปดีไม่มีถัน
    กับคนจนแต่งอินทรีย์นี้อีกอันสี่ด้วยกันดูเป็นเห็นไม่งาม
    บรรพชาสามปางนางสามผัวข้าเก่าชั่วเมียชังเขายังห้าม
    มักเกิดเงี่ยงเกี่ยงแง่แส่หาความกาลีลามหยาบช้าอุลามก
    ฯลฯ
    ถือตำรามากนักขี้มักกรอบมิเสียชอบขัดสนจนจอนจ่อ
    ออกชื่อบาปครางฮือทำมืองอไม่นึกฉ้อส่อเสียดเบียดเบียนใคร
    จิตดำรงคงธรรมไม่พล้ำเพลี่ยงสู้หลีกเลี่ยงตามภาษาอัชฌาสัย
    ถึงบอกลาภบาปแล้วไม่พอใจมีหาไม่อุตส่าห์รักษากาย
    พระพุทธองค์ก็ทรงชมว่าสมปราชญ์บัณฑิตชาติเมธาปัญญาหลาย
    สู่คติเบื้องหน้าถ้าเขาตายทางอบายห่างไกลไม่ไปเลย
    กระแสพุทธฎีกาว่ากระนี้เดี๋ยวนี้นี่ไม่กระนั้นนะท่านเอ๋ย
    ถ้ายากจนแล้วก็คนมักยิ้มเย้ยภิปรายเปรยเปรียบเทียบพูดเสียบแทง
    ว่าชะชะนักปราชญ์ชาติสถุลวิบากบุญให้ผลจนต่องแต่ง
    สวรรค์นรกที่ไหนไม่แจ้งแจงอยู่เขตแขวงธานีบุรีใด
    อย่าคบมิตรจิตพาลสันดานชั่วจะพาตัวให้เสื่อมที่เลื่อมใส
    คบนักปราชญ์นั่นแหละดีมีกำไรท่านย่อมให้ความสบายหลายประตู
    ฯลฯ
    ชั่วแต่กายวาจาย่อมปรากฏคนทั้งหมดแม่นแท้เขาแลเห็น
    ชั่วในใจบังปิดไว้มิดเม้นสิบห้าเล่มเกวียนเข็นไม่หมดมวล
    คดสิ่งอื่นหมื่นแสนแม้นกำหนดโกฏล้านคดซ้อนซับพอนับถ้วน
    คดของคนล้นล้ำคดน้ำนวลเหลือกระบวนที่จะจับนับคดค้อม
    ฯลฯ
    จะผ่าไม้ให้พินิจพิศดูท่าให้เห็นว่าแสกไหนเหมาะจึงเจาะขวาน
    จะเข้าหาคนผู้ดูอาการถือโบราณถูกเดาจึงเอาคำ
    ฯลฯ
    คนแก่มีสี่ประการโบราณว่าแก่ธรรมาพิสมัยใจแห้งเหี่ยว
    แก่ยศแก่วาสนาปัญญาเปรียวแต่แก่แดดอย่างเดียวแก่เกเร
    ความรู้ท่วมหัวตัวไม่รอดเป็นคำสอดของคนเกเรเกเส
    เรียนวิชาไม่แม่นยำคะน้ำคะเนไปเที่ยวเตร่ประกอบชั่วตัวจึงจน
    ทะเลน้อยเท่ารอยโคโผไม่ได้โดยว่าใจยังกำหนัดขัดมรรคผล
    หญิงขมิ้นชายปูนประมูลปนไหนจะพ้นทะเลแดงตำแหน่งเนื้อ
    ฯลฯ
    อีกข้อหนึ่งเมืองเราชาวมนุษย์ย่อมว่าพุทธกับไสยตั้งใจว่า
    ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไปมาทั้งเจรจารำคาญหูดูไม่งาม
    พุทธแปลว่าพระเจ้าท่านกล่าวแก้ไสยนั้นแปลว่าผีนี้ได้ถาม
    ผิดหรือถูกไม่ตรึกตราเจรจาตามมีเนื้อความในคัมภีร์บาลีใด
    ถ้าพุทธองค์ไปอาศัยผีผีไปพึ่งบารมีที่ตรงไหน
    ถ้อยทีถ้อยพึ่งกันนั้นอย่างไรครั้นว่าไล่เข้าก็ซัดลัทธิแรง
    เป็นวาจากรรมเปล่าไม่เข้าข้อรู้แล้วก็นิ่งไว้อย่าได้แถลง
    แม้พลั้งปากเสียศีลพลาดตีนแพลงมักระแวงข้างเป็นโทษประโยชน์น้อย
    ฯลฯ
    จะคบมิตรสนิทนักมักเป็นโทษเกิดขึ้งโกรธต่างต่างเพราะวางจิต
    ทันระวังตัวที่ไหนไม่ทันคิดเหตุสักนิดแล้วก็ได้ขัดใจกัน
    ฯลฯ
    ผมยาวยุ่งทิ้งไว้ไม่สางหวีสิ้นที่พึ่งแล้วจึงมีคนข่มเหง
    อาวุธปากกล่าวดีมีคนเกรงยิงให้เป้งเดียวถูกทุกทุกคำ
    ฯลฯ
    ดูตระกูลกิริยาดูอากัปดูทิศจับเอาที่ผลต้นพฤกษา
    ดูฉลาดเล่าก็เห็นที่เจรจาดูคงคาก็พึงหมายสายอุบล
    นกกระจาบเดิมหนักหนามากกว่าแสนไม่เดือดแค้นสามัคคีย่อมมีผล
    ครั้นภายหลังอวดกำลังต่างถือตนพรานก็ขนกระหน่ำมาพากันตาย
    ฯลฯ
    คืนและวันพลันดับก็ลับล่วงท่านทั้งปวงจงอุตสาห์หากุศล
    พลันชีวิตคิดถึงรำพึงตนอายุคนนั้นไม่ยืนถึงหมื่นปี
    อันความมรณาถ้วนหน้าสัตว์แต่พระตรัสเป็นองค์พระชินศรี
    แสนประเสริฐเลิศภพจบธาตรียังจรลีเข้าสู่นิพพานเอย ฯ

    ที่มา หอมรดกไทย�http://203.144.136.10/service/mod/heritage/nation/proverb/index05.htm

    จำนวนอ่าน : 11368